การเลือกซื้อปลาน้ำจืด
1.
จะซื้อปลาน้ำจืดเป็น ๆ จะเลือกซื้ออย่างไร?
ปลาช่อน |
ปลาน้ำจืดเป็น ๆ
ที่เรามักจะซื้อมาทำอาหาร มักจะได้แก่ปลาช่อน ปลาดุก ปลาไหล ปลาหมอ ฯลฯ ปลาพวกนี้ ถ้าซื้อในฤดูกาลของมัน
จะได้ปลาที่ตัวอ้วนสมบูรณ์ที่สุด แต่ตรงกันข้าม ถ้าไปซื้อในฤดูที่ปลามีไข่ ปลาจะผอมและเนื้อไม่สู้อร่อยนัก
ปลาช่อน จะมีชุกในเดือนมกราคม ถึงเดือนมีนาคม
แล้วจะหยุดเพื่อผสมพันธุ์ไปจับกันได้อีกที ก็ราวเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนธันวาคม
ปลาดุก |
ปลาดุก ก็เช่นเดียวกัน ปลาหมอก็คล้าย
ๆ กันด้วย
ปลาไหล |
จะเลือกซื้อปลาน้ำจืดพวกนี้ คือปลาที่จะต้องซื้อตอนเป็น ๆ นี้ จะต้องดูว่า ปลาเพลียมากหรือเปล่า หรือมีรอยแผล เช่น ด่างดวงตามลำตัวหรือไม่ ถ้าปลาสีซีดผิวหนังไม่คล้ำอย่างที่เคยเป็น อย่าซื้อมาเลย รับประทานปลาน้ำจืด ควรจะต้มให้สุกประการเดียว จะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องโรคพยาธิ เช่น พยาธิใบไม้ในตับ หรือพวกตัวจิ๊ด เพราะฉะนั้น พวกส้มฟัก ปลาส้ม จึงไม่สมควรรับประทานอย่างยิ่ง
2. จะเลือกซื้อปลาน้ำจืดประเภทที่ตายแล้ว ควรเลือกซื้ออย่างไร?
เช่น ปลาเนื้ออ่อน ปลาสลาด ปลาตะเพียน ปลาเทโพ ปลาบู่ ปลาสลิด ฯลฯ พวกนี้ เราใช้ปลาที่ตายแล้วมาปรุงอาหารได้ เนื้อก็ยังอร่อยอยู่ แต่ควรจะเลือกปลาที่ตายังสดใส เหงือกสีสดแดง หัวปลาและเกล็ดต้องติดอยู่กับตัว ไส้ปลาไม่ทะลัก เนื้อแน่น กดไม่ยุบ ไม่มีกลิ่นเหม็น นอกจากกลิ่นของคาวปลาตามปรกติ
การเลือกซื้อปลาน้ำเค็ม
3.
ปลาน้ำเค็มสด ๆ จะซื้ออย่างไร?
ต้องมีเนื้อแข็ง พื้นท้องไม่ผุ
ไม่มีเมือกมาก ถ้าเป็นปลาทู ผิวจะสีเขียวเหลือบ ๆ ดูเหมือนประกายรุ้ง ตาจะต้องไม่แดง
เหงือกสีสดแดงเท่าไหร่ได้ยิ่งดี ถ้าอยากรู้ว่าปลาสดมากน้อยแค่ไหน ให้ลองลอยน้ำดู ปลาสดจะจมน้ำ
ส่วนปลาจวนจะเน่ามีแก๊สมาก จะลอยน้ำนะคะ
ปลาทะเล เวลาทำปลา
ต้องใช้มีดคม ๆ ผ่าท้องควักไส้เสียก่อน แล้วล้างเขียง ล้างมีดให้สะอาด อย่าให้มีเลือดติดอยู่
จึงจะมาหั่นเนื้อปลา หรือมาบั้งแล้วเอาไปต้มแกงหรือทอดได้ ถ้าปลามีเมือกมาก ให้ใช้น้ำส้มมะขามเปียก
หรือน้ำส้มสายชูล้าง จะหมดกลิ่นคาวและเมือกดีขึ้น
การหุงต้ม ผัด หรือทอดปลาทุกชินด ต้องทำด้วยความร้อนสูง เช่น น้ำเดือดพล่าน ปลาจึงจะไม่เหม็นคาว
พรุ่งนี้ ป้าเปิ้ลจะนำเรื่อง จะเลือกกินหอยและปูระยะไหนจึงจะดีมาลง ซึ่งจะเป็นตอนสุดท้ายสำหรับหัวข้อนี้นะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น